analyticstracking
ผลสำรวจเรื่อง “ชีวิตความเป็นอยู่คนไทยวันนี้ กับสถานการณ์ข้าวของราคาแพง ”
คนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 54.7 เห็นว่าข้าวของราคาแพง มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ส่วนใหญ่ร้อยละ 88.9 ต้องมีปรับตัวจากผลกระทบข้าวของราคาแพง
โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 60.9 ทำอาหารกินเอง รองลงมาร้อยละ 59.7 ลดปริมาณการซื้อลง
ประชาชนร้อยละ 46.9 ชี้การขึ้นราคาค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากที่สุด
โดยร้อยละ 47.1 เห็นว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะช่วยเหลือประชาชนได้ได้ระดับปานกลาง
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                  กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพสำรวจความคิดเห็น
ประชาชนเรื่อง “ชีวิตความเป็นอยู่คนไทยวันนี้ กับสถานการณ์ข้าวของราคาแพง”
โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,033 คน พบว่า ประชาชน
ร้อยละ 43.1 เห็นว่าจากสถานการณ์ข้าวของราคาแพง ทำให้สถานะทางการเงิน
พอดีกับค่าใช้จ่ายไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม
ขณะที่ร้อยละ 39.0 ไม่เพียงพอกับ
ค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ส่วนร้อยละ 17.9 ยังเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม
 
                  เมื่อถามว่าจากผลกระทบข้าวของราคาแพง มีผลต่อการใช้จ่าย
การดำเนินชีวิต ของท่านมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.7 เห็นว่ามีผล
ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ส่วนร้อยละ 36.6 เห็นว่ามีผลปานกลาง ขณะที่ร้อยละ 8.7
เห็นว่ามีผลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
 
                  ทั้งนี้เมื่อถามว่ามีการปรับตัวหรือไม่อย่างไร ในยุคที่ข้าวของ
ราคาแพงขึ้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 88.9 มีการปรับตัว โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 60.9
ทำอาหารกินเอง เอาอาหารมากินเองที่ทำงาน รองลงมาร้อยละ 59.7 ลด
ปริมาณการซื้อลง และร้อยละ 50.2 ซื้อสินค้าอย่างอื่นทดแทนสินค้าที่ราคา
แพงขึ้น
ขณะที่ร้อยละ 11.1 ไม่มีการปรับตัว ใช้ชีวิตปกติ กินปกติ
 
                  โดยเมื่อถามว่าการขึ้นราคาสินค้าอุปโภค บริโภคอะไร ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
มากที่สุด ประชาชนร้อยละ 46.9 เห็นว่าคือการขึ้นราคาค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
รองลงมาคือ การซื้ออาหารสดตามตลาด
คิดเป็นร้อยละ 35.7 และการไปกินอาหารที่ร้านตามสั่ง ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว คิดเป็นร้อยละ 8.9
 
                  สุดท้ายเมื่อถามว่าจากข้าวของราคาแพงขึ้น คิดว่าการมีโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะช่วยเหลือ
ประชาชนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด ประชาชนร้อยละ 47.1 เห็นว่าช่วยได้ระดับปานกลาง
ส่วนร้อยละ
32.1 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 20.8 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
 
                  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
             1. ข้อคำถาม “จากสถานการณ์ข้าวของราคาแพง ทำให้สถานะทางการเงินของท่านเป็นอย่างไร”

 
ร้อยละ
ยังเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม
17.9
พอดีกับค่าใช้จ่ายไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม
43.1
ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม
39.0
 
 
             2. ข้อคำถาม “จากผลกระทบข้าวของราคาแพง มีผลต่อการใช้จ่าย การดำเนินชีวิต
                 ของท่านมากน้อยเพียงใด”


 
ร้อยละ
ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างมาก ร้อยละ 36.6 และมากที่สุด ร้อยละ 18.1)
54.7
ปานกลาง
36.6
ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างน้อย ร้อยละ 6.0 และน้อยที่สุด ร้อยละ 2.7)
8.7
 
 
             3. ท่านมีการปรับตัวหรือไม่อย่างไร ในยุคที่ข้าวของราคาแพงขึ้น (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

 
ร้อยละ
มีการปรับตัว โดย
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)    
ทำอาหารกินเอง เอาอาหารมากินเองที่ทำงาน ร้อยละ 60.9
     ลดปริมาณการซื้อลง ร้อยละ 59.7
      ซื้อสินค้าอย่างอื่นทดแทนสินค้าที่ราคาแพงขึ้น ร้อยละ 50.2
     กินอาหารนอกบ้านน้อยลง ร้อยละ 26.9
      กินอาหารสำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น ร้อยละ 13.5
     ลดมื้ออาหารลงจาก 3 มื้อ ร้อยละ 4.5
     อื่นๆ เช่น ปลูกผักกินเอง หาปลากินเอง ร้อยละ 2.0
88.9
ไม่มีการปรับตัว ใช้ชีวิตปกติ กินปกติ
11.1
 
 
             4. การขึ้นราคาสินค้าอุปโภค บริโภคอะไร ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของท่านมากที่สุด

 
ร้อยละ
การขึ้นราคาค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
46.9
การซื้ออาหารสดตามตลาด
35.7
การไปกินอาหารที่ร้านตามสั่ง ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว
8.9
การซื้อสินค้าต่างๆ ตามห้างสรรพสินค้า
6.5
อื่นๆ เช่น ไม่ส่งผลกระทบ ไม่มีความเห็น
2.0
 
 
             5. ข้อคำถาม “จากข้าวของราคาแพงขึ้น ท่านคิดว่าการมีโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะช่วยเหลือ
                 ประชาชนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด”


 
ร้อยละ
ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างมาก ร้อยละ 15.8 และมากที่สุด ร้อยละ 5.0)
20.8
ปานกลาง
47.1
ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างน้อย ร้อยละ 22.3 และน้อยที่สุด ร้อยละ 9.8)
32.1
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                  1) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในยุคข้าวของราคาแพง
                  2) เพื่อสะท้อนถึงโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนัก
ด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  4 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 31มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2565
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 5 กุมภาพันธ์ 2565
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
522
50.5
             หญิง
511
49.5
รวม
1,033
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
80
7.7
             31 – 40 ปี
134
13.0
             41 – 50 ปี
253
24.5
             51 – 60 ปี
302
29.2
             61 ปีขึ้นไป
264
25.6
รวม
1,033
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
657
63.6
             ปริญญาตรี
289
28.0
             สูงกว่าปริญญาตรี
87
8.4
รวม
1,033
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
115
11.1
             ลูกจ้างเอกชน
198
19.2
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
428
41.4
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
44
4.3
             ทำงานให้ครอบครัว
1
0.1
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
199
19.3
             นักเรียน/ นักศึกษา
16
1.5
             ว่างงาน
32
3.1
รวม
1,033
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898